ผู้ว่าฯโคราช เข้มผู้ใช้บริการ อาบอบนวด สวมแมสก์ เปิดให้บริการวันนี้

ผู้ว่าฯโคราช เข้มผู้ใช้บริการ อาบอบนวด สวมแมสก์ เปิดให้บริการวันนี้

ผู้ว่าราชการโคราช สั่งเข้มผู้ใช้บริการ อาบอบนวด สวมแมสก์ หลังสถานบันเทิง ผับบาร์ เปิดให้บริการวันนี้เป็นวันแรก นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าประชุมซักซ้อมแนวทางการให้เปิดบริการผับบาร์ และ สถานบันเทิง ที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 1 มิ.ย. ในพื้นที่สีเขียวและพื้นที่สีฟ้ารวม 31 จังหวัด เพื่อทำความเข้าใจถึงระเบียบ กฎข้อบังคับ ในการเปิดสถานบริการกว่า 100 แห่งในพื้นที่เขตอำเภอเมืองนครราชสีมา

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา 

เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นจังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว พื้นที่สีฟ้า ดังนั้นจึงต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการสถานบันเทิง ที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่มีอยู่เฉพาะในพื้นที่ เขต อำเภอเมืองนครราชสีมา กว่า 100 แห่ง

ยังไม่รวมพื้นที่อำเภอท่องเที่ยวในจังหวัดอีก อาทิ อ.ปากช่อง อ.พิมาย อ.วังน้ำเขียว อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน เป็นต้น ซึ่งสถานบริการที่จะเปิดให้บริการได้นั้นจำเป็นต้อง ได้รับอนุญาตการเปิดให้บริการจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

การบริการลักษณะใกล้ชิดจะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องไม่เกินเวลา 24.00 น งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย งดใช้แก้วร่วมกัน พนักงาน นักร้อง นักดนตรี ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ต้องมีการตรวจหาเชื้อพนักงาน ด้วย ATK ทุก 7 วัน และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล หรือ UP อย่างเคร่งครัด และที่ต้องเน้นย้ำจะต้องไม่ให้กลุ่ม 608 หรือ ผู้สูงอายุ 60 ปี มีโรคประจำตัว 8 โรคเข้าใช้บริการโดยเด็ดขาด

“ที่ผ่านมาต้องขอชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกคนที่ทำให้การระบาดของเชื้อลดลงไปอย่างมาก ทั้งนี้ถึงแม้ว่าประเทศไทย หรือจังหวัดนครราชสีมา จะประกาศโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น และมีการผ่อนปรนมาตรการการสวมใส่หน้ากากอนามัย ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ก็ตาม

แต่จังหวัดนครราชสีมา ก็อยากจะรณรงค์ขอความร่วมมือให้ประชาชนในจังหวัดยังคงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ หรือในพื้นที่ที่มีการรวมตัวของประชาชนเป็นจำนวนมาก ป้องกันการระบาดของโรคไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือโรคชนิดอื่นๆ” ผู้ว่าฯ นครราชสีมากล่าว

พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้

โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) ได้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันนี้ (1 มิ.ย. 2565) เป็นต้นไป วันที่ 1 มิ.ย. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA : Personal Data Protection Act B.E. 2562 (2019) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้

โดยถือเป็นหนึ่งในกฎหมายสำคัญด้านดิจิทัล 12 ฉบับ ที่รัฐบาลและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมผลักดันเพื่อให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูล สร้างมาตรฐานการใช้ เก็บ เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคลของไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยมีหลักการสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกนำไปใช้อย่างเป็นธรรมโปร่งใส และได้รับการดูแลมิให้มีการนำข้อมูลไปใช้งานในทางที่ผิด กำหนดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้องค์กรสามารถใช้ข้อมูลในทางที่ไม่ก่อให้เกิดเป็นการละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลมากจนเกินไป รวมถึงจะต้องรักษาความปลอดภัยในการใช้ข้อมูลอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังเป็นมุ่งยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทยให้ทัดเทียมนานาประเทศด้วย

โฆษกรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีย้ำว่า พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯจะมีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองและให้สิทธิกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นประโยชน์ต่อประชาชน องค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงประเทศชาติ รวมถึงได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้นกับบุคคลหรือนิติบุคคลในการเก็บข้อมูล รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการใช้ข้อมูล หรือเพื่อการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ หากผู้ใดหรือองค์กรใดไม่ปฏิบัติตามนั้น มีโทษทั้งทางแพ่ง โทษทางอาญา และโทษทางปกครอง

โดยตัวอย่างการกระทำที่ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้แก่

1.  เอาประวัติการทำความผิดคนอื่นไปโพสต์ในเฟซบุ๊กโดยที่เจ้าตัวเขาไม่ได้ยินยอม

2. เอาเรื่องราวการเจ็บป่วยของคนอื่นมาเผยแพร่ให้คนอื่นรู้

3. ไปเอารูปคนอื่นในกูเกิ้ลแล้วมาตกแต่งรูปภาพ แล้วใส่ข้อความไม่ว่าจะชื่นชม หรือด่าทอ คนอื่นโพสต์รูปภาพ-ข้อความในเฟซบุ๊กของเขา แล้วเราหมั่นไส้เลยเข้าไปคอมเม้นต์ แล้วทำให้เขาเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง

4. หัวหน้างานลงโทษออกใบเตือนลูกน้องแล้วเอาใบเตือนมาติดบอร์ด หรือส่งในไลน์กลุ่ม หรือไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก

5. การไปแจ้งความว่าโดนคนอื่นฉ้อโกง พอได้ใบแจ้งความจากตำรวจแล้วเอาไปโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อเตือนคนอื่นไม่ให้หลงกลถูกหลอกอีก เป็นต้น โดยการกระทำดังกล่าว มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป