‘ธนกร’ เผย นายกเร่งติดตามกรณีข่าว สนามบินเบตง

‘ธนกร’ เผย นายกเร่งติดตามกรณีข่าว สนามบินเบตง

โฆษกรัฐบาล ทำการเปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีได้มีการเร่งติดตามหลังมีการเผยแพร่ข่าวถึงกรณีท่าอากาศยานเบตง หรือ สนามบินเบตง จ. ยะลา วันนี้ (5 ม.ค. 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามโครงการท่าอากาศยานเบตง – สนามบินเบตง เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ ทั้งนี้ กรณีที่มีข่าวและข้อมูลปรากฏบิดเบือนในสื่อสังคมออนไลน์ ถึงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตงที่มีข้อติดขัดไม่สามารถเปิดให้บริการได้

ซึ่งข้อเท็จจริงปัจจุบันท่าอากาศยานเบตงได้มีการให้บริการเที่ยวบินทางราชการ 

และเที่ยวบินส่วนบุคคลแล้ว และมีการทำการบินมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ ได้มีสายการบินขออนุญาตทำการบินไว้ 2 เส้นทาง คือ 1. หาดใหญ่-เบตง-หาดใหญ่ และ 2. ดอนเมือง-เบตง-ดอนเมือง

โดยกรมท่าอากาศยาน ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ วิเคราะห์ข้อมูลทางกายภาพและทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งข้อสรุปในการก่อสร้างที่วางไว้คือ ทางวิ่ง (Runway) ขนาด 30x 1,800 เมตร สามารถรองรับเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง (ATR-72/Q-400) ซึ่งตามหลักการดำเนินงานท่าอากาศยานจะมีการติดตามตัวเลขผู้โดยสารและเที่ยวบิน เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานต่าง ๆ โดยจะต้องมีระยะของการพัฒนาตามขนาดและความต้องการเดินทางของประชาชน สำหรับเส้นทางบินและการขึ้นลงของอากาศยาน จะอยู่ในน่านฟ้าของประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า การก่อตั้งท่าอากาศยานเบตงนั้น สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายการพัฒนา 14 จังหวัดภาคใต้ และ จังหวัดยะลาอยู่ในกลุ่มภาคใต้ตอนล่างมีอำเภอเบตงเป็นอำเภอที่สำคัญมีความเจริญด้านเศรษฐกิจ แต่เนื่องจากพื้นที่อำเภอเบตง มีสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน ถนนแคบและคดเคี้ยว ไม่สะดวกต่อการเดินทาง

ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาด้านการคมนาคม เข้าสู่อำเภอเบตง ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว และเชื่อมต่อประเทศมาเลเซียที่ด่านเบตงและพื้นที่ใกล้เคียงได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

นายธนกร ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเฝ้าติดตามโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตงมาโดยตลอด ปัจจุบันท่าอากาศยานเบตงได้มีการให้บริการเที่ยวบินทางราชการ และเที่ยวบินส่วนบุคคล ซึ่งได้มีการทำการบินมาอย่างต่อเนื่อง อยู่ระหว่างพัฒนาท่าอากาศยานให้สามารถรองรับการเดินทางทางอากาศของประชาชนได้อย่างเพียงพอ และครอบคลุมทุกความต้องการ รวมถึงเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมของประชาชนให้ทั่วถึง

ทั้งนี้ จังหวัดยะลามีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่อย่าง skywalk อัยเยอร์เวง บ่อน้ำร้อน อุโมงค์ปิยะมิตร สวนหมื่นบุปผา สวนไม้ดอกเมืองหนาว อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์รถยนต์ ทุกแห่งได้เตรียมความพร้อม ปรับภูมิทัศน์ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ภายใต้มาตรการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป

เจ้าของหอผงะ ห้องเช่า หรือ ห้องขยะ ค้างน้ำ-ค้างไฟ เพียบ

เพจดังเปิดภาพ สภาพห้องเช่าสกปรก ห้องขยะ เต็มจนล้น ผู้เช่าค้างค่าไฟกว่าหมื่น ค่าน้ำอีกเกือบพัน แถมเจอ ไม่ใช่แค่ห้องเดียว ข่าวขยะในห้อง ห้องเช่าสกปรก มีมาให้เห็นอีกครั้ง เที่ยวนี้เผยแพร่โดย เฟซบุ๊กแฟนเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3” โพสต์สภาพของห้องเช่าแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยกองขยะจำนวนมาก ขนาดที่เจ้าของห้องเช่ามาเห็นแล้ว ถึงกับเข่าทรุด ต้องโพสต์ขอความเห็น ความช่วยเหลือ ว่าจะทำอย่างไรได้บ้างกับดรณีแบบนี้

โดยข้อความในเพจ ระบุว่า “อยู่ไปได้ไง ซกมกสกปรกมากก #ปทุมธานี สอบถามหน่อยครับ ผู้เช่าค้างค่าไฟ 14,000 บาท ค่าน้ำ 800 บาท ค่าเสียหาย 3 หมื่นกว่า ทำไงได้บ้างครับ ฟ้องได้ไหม มีสัญญาเช่า อันนี้อีกห้อง 1 (ภาพที่ 5 ที่มีกระบะทรายแมว) แต่ค้างไฟไม่เยอะ แต่ห้องแรกเยอะค้าง 14,000 ครับ ห้องแรกผู้ชายเช่าครับ ห้องที่มีแมวผู้หญิงเช่าครับ”

อุทาหรณ์ เจ้าของห้องเช่ารายเดือน ครั้งนี้ เมื่อเริ่มเป็นที่วิจารณ์บนโลกโซเชียลซึ่งส่วนใหญ่ เข้ามาคอมเมนต์เห็นใจเจ้าของ ที่ห้องเช่าต้องกลายสภาพเป็น ห้องขยะ คอนโด ซึ่งบางส่วนคาดเดาว่า ผู้เช่าอาจมีการนำสัตว์มาเลี้ยงหรือไม่ ส่วนบางคนก็แนะนำเจ้าของห้องเช่าว่า หนหน้าอาจต้องมีการคัดกรอง ผู้เช่า ให้ละเอียดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยจนต้องมานั่งปวดใจอีกเช่นนี้อีก กรมการแพทย์ เผยความคืบหน้าของ ชาวอินเดียติดโควิด 2 คนที่ถูกทาง สสจ.ชลบุรีตามตัวว่า ขณะที่ทั้งสองอยู่ภายใต้การดูแลของ รพ.เลิดสิน แล้ว

เพจ กรมการแพทย์ ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กอัปเดตความคืบหน้าถึงกรณีที่ทาง สสจ.ชลบุรี ได้ติดตามตัวชายอินเดียสองคนที่ถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโควิดก่อนหน้านี้ และมีรายงานเบื้องต้นว่ายังไม่ได้เข้ารับการรักษา ล่าสุดทางกรมการแพทย์ยืนยันว่าทั้งสองได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามเลิดสิน และช่วงที่พบตัวชาวอินเดียทั้งสองก็ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้ว

โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ตามที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ได้ประกาศตามหานักท่องเที่ยว ชาวอินเดีย 2 ท่าน ขอแจ้งให้ทราบว่า เนื่องจากขณะนี้ ทั้ง 2 ท่าน ได้รับการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลสนามเลิดสิน กรมการแพทย์เรียบร้อยแล้ว โดยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อเข้ารับการรักษาตามระบบต่อไป